กระดูกสะบ้า 2
สวัสดีค่ะ ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอเรื่องราวของโรคข้อสะโพกเสื่อมในสุนัขพันธุ์ใหญ่ให้ทุกท่านได้อ่านไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าท่านที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กจะไม่ต้องประสบพบเจอกับโรคเหล่านี้นะคะ เพราะสุนัขพันธุ์เล็กก็สามารถเป็นโรคกระดูกสะบ้าเคลื่อนได้เช่นกันค่ะ ฟังชื่ออาจจะไม่คุ้นหูสักเท่าไร ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่าว่าถ้าเจ้ากระดูกสะบ้ามันเคลื่อนแล้วจะส่งผลต่อสุนัขของเราบ้างค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับกระดูกสะบ้ากันก่อนนะคะ กระดูกสะบ้า (Patella) เป็นกระดูกรูปไข่ฝังอยู่ในเอ็นของกล้ามเนื้อขาหลัง (Patellar Ligament) ซึ่งจะไปยึดเกาะที่ส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง ปกติกระดูกสะบ้าจะอยู่บนร่องของกระดูกต้นขาหลัง ร่องนี้จะเว้าเพื่อรองรับสะบ้าเอาไว้โดยสะบ้าจะเคลื่อนที่ขึ้น-ลงอยู่บนร่องเมื่อสุนัขยืด และหดขา สำหรับสุนัขที่เป็นโรคสะบ้าเคลื่อนกระดูกสะบ้าจะเคลื่อนออกไปทางด้านใน (Medial Luxation) หรือด้านข้างของร่องกระดูกต้นขาหลัง (Lateral Luxation) ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นมาแต่กำเนิด โดยเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม พบในสุนัขอายุน้อยกว่า 1 ปี หรืออาจเกิดขึ้นภายหลังจากการกระทบกระเทือนก็ได้ สุนัขพันธุ์เล็กที่พบโรคสะบ้าเคลื่อนได้บ่อย ได้แก่ พันธุ์ปอมเมอเรเนียน พันธุ์ชิวาวา พันธุ์ปักกิ่ง พันธุ์พูเดิ้ลทอย พันธุ์มอลทีส พันธุ์ชิห์สุ เป็นต้น เราสามารถแบ่งเกรดตามระดับความรุนแรงของโรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัขได้ ดังนี้ค่ะ
กระดูกสะบ้า 3
ระดับที่ 1 ลูกสะบ้ายังคงอยู่ในร่องอยู่ อาจเคลื่อนออกมาจากร่องเป็นบางครั้ง เวลาใช้มือจับดันสามารถเลื่อนหลุดออกมาได้ง่าย แต่เมื่อปล่อยก็จะเด้งกลับมาอยู่ในร่องเดิมได้ น้องหมาอาจยังไม่แสดงอาการ
ระดับที่ 2 การเคลื่อนของสะบ้ามักเกิดขึ้นได้บ่อย สัตว์จะอาจแสดงอาการเจ็บขาและเดินผิดปกติ สุนัขที่มีสะบ้าเคลื่อนในระดับนี้เป็นเวลานาน อาจพบการกร่อนของผิวด้านในของสะบ้าและผิวสัมผัสของสันกระดูกที่สะบ้ามีการเสียดสี ทำให้มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมตามมาได้
ระดับที่ 3 สะบ้ามักเคลื่อนหลุดตลอดเวลา ร่วมกับมีการบิดของกระดูกหน้าแข้งที่เป็นจุดยึดเกาะของเอ็นของกระดูกสะบ้า มักพบว่าสุนัขไม่สามารถเหยียดขาได้เต็มที่สุนัขจะแสดงอาการเจ็บขาไม่ยอมลงน้ำหนัก
ระดับที่ 4 เกิดการเคลื่อนของสะบ้าอย่างถาวร โดยที่ไม่สามารถดันกลับได้ มีการบิดและการเจริญผิดรูปของกระดูกขาหลัง ร่องที่รองรับสะบ้าตื้นหรือหายไป สุนัขมักเจ็บขาตลอดเวลาและไม่ใช้ขาข้างนั้น ๆ
กระดูกสะบ้า1
สำหรับน้องหมาที่เป็นโรคสะบ้าเคลื่อน การรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคค่ะ หากเป็นไม่มากอยู่ในระดับ 1 อาจจะใช้วิธีการรักษาทางยา ร่วมกับการทำกายภาพ และควบคุมน้ำหนัก อาจให้กินยาแก้ปวด และยาบำรุงข้อ แต่หากเป็นมากขึ้นตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดร่วมด้วย โดยวิธีการผ่าตัดมีหลายวิธี แต่ละวิธีจะมีจุดประสงค์เพื่อจัดแนวของลูกสะบ้าให้อยู่ในร่อง สำหรับน้องหมาที่เป็นรุนแรงระดับสูงๆ อาจต้องผ่าตัดโดยใช้หลายๆวิธีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเนื้อเยื่ออ่อนรอบข้อ และการผ่าตัดกระดูก เช่น การผ่าเซาะร่องกระดูกให้ลึกขึ้น การใช้ไหมเย็บรั้งกระดูกสะบ้า และเอ็นให้เข้าร่องกระดูก เป็นต้น หลังผ่าตัดช่วงแรก เจ้าของควรจำกัดการเคลื่อนไหวของสุนัข ไม่ให้ขาหลังรับน้ำหนักมากเกินไป จากนั้นควรเริ่มมีการทำกายภาพบำบัด โดยการยืดหดขา เมื่ออาการเริ่มดีขึ้นแล้ว อย่าลืมพาไปพบคุณหมอเพื่อติดตามอาการเป็นระยะ นอกจากนี้การเลี้ยงดูก็มีผลต่อการดำเนินของโรคด้วย คือต้องมีการควบคุมเรื่องของน้ำหนักตัว ในพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต้องระมัดระวังในเรื่องของการกระโดด การเดินบนพื้นลื่น เพราะการเลี้ยงดูเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้โรคนี้รุนแรงขึ้นได้ค่ะ
*** ข้อมูลบางส่วนจาก dogilike.com
หมายเหตุ : รูปภาพทั้งหมด มาจาก sanook.com